บทความก่อนตอนที่ 1 บอกถึงว่า ทุกวันนี้ สังคมมีแนวโน้มการรักสุขภาพมากขึ้น แต่มุมมอง หรือความรู้เรื่องการออกกำลังกายเราถูกต้องหรือยัง มาตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายผมจะสรุปให้ฟังกันนะครับ

รูปภาพการออกกำลังกายของผม รองเท้าผ้าใบ ตะกร้อ กับความตั้งใจ แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วครับ



มาดูหลักการกับรูปแบบการออกกำลังกายไสตล์ของผมดูครับ หลักการของผมง่าย นักออกกำลังกายตัวจริงเสียงจริงก็น่าจะมีหลักการวิธีการออกกำลังกายคล้ายกับผมเยอะ ลองมาชมวิดีโอกันครับ

ธรรมชาติมนุษย์ ทุกคนมีความเห็นแก่ตัว มีมากบ้างน้อยบ้าง ก็ตามแต่ว่า พื้นฐานชีวิตของคน ๆ นั้น จะมาจากไหน แต่เมื่อพูดถึงมันแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงมันในแง่ลบแง่ที่ไม่ดีงาม แต่ผมพบว่า มีความเห็นแก่ตัวอยู่อย่างหนึ่ง ที่เป็นความเห็นแก่ตัวที่ดีงาม ยิ่งคุณมีความเห็นแก่ตัวชนิดนี้อย่างยึดมั่นจริงจัง ผลของความเห็นแก่ตัวของคุณไม่เพียงจะได้ประโยชน์กับคุณเท่านั้น คนในครอบครัว คนในหน่วยงาน คนในสังคม ประเทศชาติ หรือแม้แต่ในโลกนี้ ก็ล้วนจะได้ประโยชน์จากคุณด้วย ผมขอสนับสนุนให้ทุกคนเห็นแก่ตัวด้วยการออกกำลังกายครับ

การออกกำลังกายเป็นการกระทำเพื่อตนเองล้วน ๆ จริง ๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่า ผลพวงแห่งการออกกำลังกายจะได้ประโยชน์เผื่อแผ่ไปถึงสิ่งรอบข้างได้มากมายขนาดนั้น ในขณะที่คุณกำลังออกกำลังกาย ความเครียด ความวิตกกังวล ความไม่สบายใจ ฯลฯ ไม่ว่าจะเกิดจากอะไร จะหายไปจากสมองคุณ ความคิดของคุณจะมุ่งไปสู่รายละเอียดวิธีการออกกำลังกาย พอลมหายใจเริ่มแรง เริ่มมีเหงื่อซึมก็จะยิ่งรู้สึกดี พอออกกำลังกายเสร็จจะเกิดความสบายเนื้อสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก เอาสะเต๊กมาแลกก็ไม่ยอม การได้อาบน้ำอาบท่าหลังออกกำลังกายมันช่างสดชื่นเย็นชื่นใจจริง ๆ อะไรไหนจะมีความสุขได้ถึงขนาดนั้น 

ขอพูดกระเซ้าไปถึงมือใหม่หัดออกกำลังกายกันซักหน่อย อย่างว่าแหละครับ ก่อนออกรบเค้าให้รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ก็เลยศึกษาเรื่องการออกกำลังกายซะทะลุปรุโปร่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วขอโทษทีเถอะ มักจะคิดเยอะ เตรียมการใหญ่โตเกินเหตุ เตรียมเหมือนกำลังจะออกไปรบกับกองทัพของกษัตริย์นโปเลียน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต้องเป็นแบบผ้านาโนใส่แล้วโปร่งสบายไร้เหงื่อ หรือต้องเป็นแบรนด์เนมสวยหรูดูดีเท่านั้น รองเท้าเอาแบบเทคโนโลยีล้ำยุค วิ่งแล้วไม่กระเทือนข้อเท้าข้อเข่าดีต่อสุขภาพเท้ามากมาย หรือถ้าจะซื้อเครื่องออกกำลังกายที ก็เลือกซะฟูลออปชั่น แบบเล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ ต้องเราเลย ของใช้อะไรชุดนึงไม่ใกล้ ๆ แสนไม่สบายใจ จะซื้อจักรยานก็ต้องราคา  7 - 8 หมื่น หรือแสนบาทขึ้น ชุดแต่งพร้อม ชุดแต่งตัว เฟอร์ครบ แถมพกกำลังใจมาเต็มกระเป๋า ผมขอบอกเลยนะครับว่า ยิ่งผมเห็นมือใหม่ยิ่งมุ่งมั่น หรือจริงจังกับมันขนาดเอาเป็นเอาตายมากเท่าไหร่ ผมยิ่งกลัวว่า คุณจะออกกำลังกายไม่ได้มากอย่างที่คุณต้องการ คนออกกำลังกายตัวจริงเสียงจริงอย่างผมหรือหลาย ๆ คน มีเพียงรองเท้าผ้าใบ ลูกตะกร้อ แค่นี้ผมก็ออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่เหงื่อออกโซกแล้ว เป็นความเรียบง่าย ประหยัด ขอเพียงให้คุณมีใจที่อยากจะออกกำลังกาย อยากมีสุขภาพดีเป็นตัวขับเคลื่อนก็พอแล้ว อย่าเอาเรื่องอื่น ๆ เข้ามาปนให้มันยุ่งยากวุ่นวาย ผมเห็นมานักต่อนักแล้วกับมือใหม่หัดออกกำลังกาย ถอยเครื่องออกกำลังกาย หรือจักรยานคันหรูราคาหลักหมื่นหลักแสนมาใช้เป็นที่จอดกางกางลิง 

เมื่อก่อนผมออกกำลังกายบางวัน เดี๋ยวนี้ผมจะออกกำลังกายทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ผมจะมีเหตุผลว่า วันนี้ผมจะไม่ออกกำลังกาย เพราะถ้าผมมีเหตุผลของการไม่ออกกำลังกายเมื่อไหร่ อีกวันนึง หรือหลายวันต่อ ๆ ไป ผมก็จะมีเหตุผลต่าง ๆ นานามาทำให้ผมไม่ออกกำลังกายอีก คุณพอจะนึกตามผมออกใช่มั้ยครับ ผมจะยกตัวอย่างนะครับ เช่น วันนี้ ตอนคุณกำลังจะออกกำลังกาย เกิดฝนตกหยิม ๆ มองดูสภาพดินฟ้าอากาศแล้วไม่เป็นใจ ก็คิดเลยว่า วันนี้ไม่วิ่งดีกว่า วิ่งไปก็เปียกแหง เดี๋ยวเกิดไม่สบายหละก็แย่เลย เอานะครับ นี่คือวันที่ฝนตกคุณก็กลัวเปียกกลัวไม่สบาย ก็มีข้ออ้างทำให้คุณไม่ไปออกกำลังกายได้อย่างสบายใจ แต่คุณเชื่อมั้ยครับว่า บางทีในวันรุ่งขึ้นหรือวันหลังต่อ ๆ ไปหนะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันต่างกันแบบฟ้ากับเหวเลย วันก่อนนี้คุณเห็นฝนตกคุณเลยไม่ออกไปวิ่งใช่มั้ย ปรากฏว่า วันนี้ คุณเห็นแดดออก มันก็น่าจะเป็นการดีต่อการไปออกกำลังกายนะ มันเป็นคนละเรื่องคนละอารมณ์กับเมื่อวันที่ฝนตกเลยนะ แต่คุณเชื่อมั้ยว่า ถ้าคุณเคยมีเหตุผลที่ทำให้คุณไม่อยากไปออกกำลังกายเมื่อไหร่แล้วละก็ วันที่คุณเห็นว่าแดดออกอยู่ทนโท่ คุณก็สามารถหาเหตุผลมาอ้างได้อีกว่า วันนี้แดดออกหวะ แดดแรงหวะ อย่าไปออกกำลังกายมันเลย เดี๋ยวผิวเสียแล้วมันจะไม่คุ้ม เห็นยังครับ ถ้าคุณเคยมีเหตุผลมาอ้างฉุดดึงให้คุณไม่ไปออกกำลังกายได้เมื่อไหร่ โอกาสที่คุณจะหาเหตุผลต่าง ๆ นานามาทำให้คุณไม่ไปออกกำลังกายจะมีสารพัดสารเพ ถ้าคุณอยากเป็นผู้ที่ออกกำลังกายทุกวัน หรือทุกครั้งที่คุณต้องการ ถึงเวลา อย่าหาข้ออ้าง  จำไว้ คุณมีข้ออ้างเมื่อไร โอกาสที่คุณจะไม่ออกกำลังกายในวันนั้น และครั้งต่อ ๆ ไป จะมีสูงอย่างยิ่ง 

ผมขอโชว์วิธีการออกกำลังกายของผมให้ดู ผมไม่สงวนลิขสิทธิ์หรือวิธีการใด ๆ ทั้งสิ้น ใครอยากออกกำลังกายแบบผมหรือจะปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตัวเองยังไงก็เชิญตามสบาย การออกกำลังกายของผมง่ายและประหยัดมาก ลงทุนเพียงค่ารองเท้ากับลูกตะกร้อ รองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบธรรมดา รองเท้านักเรียนหัวเป็นยางนี่แหละ รองเท้าออกกำลังกายของผมเลย ราคาก็ประมาณ 300 บาท ลูกตะกร้อก็ซื้อจากห้าง เป็นตะกร้อพลาสติกราคาไม่ถึง 100 บาท รวมเบ็ดเสร็จประมาณไม่เกิน 400 บาท เป็นไงครับ เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ถูกมากใช่มั้ยครับ ผมมีอุปกรณ์แค่ 2 อย่าง กับใจที่อยากออกกำลังกาย แค่นี้ผมก็สามารถออกกำลังได้เหนื่อยจนลิ้นห้อยแล้ว วิธีการออกกำลังกายของผม ผมจะเริ่มต้นด้วยการวิ่ง วิ่งเหยาะ ๆ นับไปให้ได้ 200 ก้าว ก็จะเริ่มเตะตะกร้อ เตะตะกร้อแบบเตะคนเดียว เตะตกพื้นเมื่อไหร่ก็หยิบขึ้นมาเตะใหม่ เตะนับไปให้ครบ 75 ที จบปุ๊บก็มาวิดพื้น 50 ครั้ง เป็นอันจบการออกกำลังกาย 1 ยก นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนนะ ผมจะมีการชกลมเสริมด้วย ชก 1 ยก ก็ 3 ท่า เริ่มต้นด้วย หมัดแย๊บหรือหมัดตรง 60 ที หมัดเหวี่ยงหรือหมัดสวิง 60 ที แล้วก็หมัดฮุคหรือหมัดช้อนขึ้นอีก 60 ที ชกลมเสร็จก็เริ่มวิ่งเป็นรอบใหม่ (ตอนหลังชกลมนี่ไม่ทำแล้ว รู้สึกมันทำให้หัวเข่าตึงแล้วก็กินเวลามาก เลยลดการชกลมไป) ผมวิ่ง เตะตะกร้อ วิดพื้น ชกลม เป็นวงรอบจนครบ 9 รอบเป็นอันเสร็จพิธี ในการออกกำลัง 9 รอบนี้ ผมจะแซมด้วยการเล่นกล้ามท้อง วิธีเล่นกล้ามท้องของผมจะเล่นด้วยวิธีการนอนราบยกขาคู่ชี้ขึ้นไปแล้วก็วางราบลง ผมจะทำทั้งหมด 2 ยก ยกนึง 90 ครั้ง รวม 180 ครั้ง เวลาที่ออกกำลังกายที่บ้าน แต่ถ้าผมไปวิ่งออกกำลังกายที่องค์พระปฐมเจดีย์ ก็จะใช้วิธีบริหารกล้ามท้องไปรวดเดียว 180 ครั้ง ม้วนเดียวจบไปเลย การออกกำลังกายทุกวันของผมแบบนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ เหงื่อเปียกชุ่มเสื้อกางเกงพอตัว คุณรู้มั้ยว่า ผมออกกำลังกายแบบนี้มาเป็นปี ๆ แล้ว ถ้าผมไม่ควบคุมการกินเลยนะ น้ำหนักแม้เพียงขีดเดียวมันก็ไม่ลง เหลือเชื่อมั้ยครับ การที่เราเคยรับรู้รับฟังเรื่องราวต่าง ๆ แล้วเอามาประพฤติปฏิบัติต่อ ๆ กันมายาวนานที่ว่า ให้ออกกำลังกายประมาณวันละ 30 นาทีก็พอนั้น ใช่ครับ มันก็พอจะทำให้สุขภาพดีได้ส่วนหนึ่งแหละครับ แต่ถ้าจะหวังผลไปถึงการลดความอ้วนลดน้ำหนักด้วยแล้ว ผมว่า 30 นาที ไม่พอหรอกครับ ผมออกกำลังกายชั่วโมงเศษมาทุกวัน ความอ้วนกับน้ำหนักมันไม่ยอมลงให้แม้แต่นิดเดียว แล้วสิ่งที่ยืนยันอีกก็คือ เมื่อก่อนผมว่ายน้ำวันละ 1 กม. ก็ว่ายในสระ 25 เมตร แหละครับ ว่ายไปกลับไปกลับให้ครบ 1,000 เมตร ก็เท่ากับ 1 กม. น้ำหนักก็ไม่ลงให้เช่นกัน โดยผมขอบอกเสียก่อนว่า ตอนนั้นผมกินอาหารตามปกติ ไม่มากไม่น้อย กินอย่างที่เคยกิน ไม่ได้ลดอาหารอะไร ดังนั้น สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณก็คือ การออกกำลังกายมันทำให้คุณสุขภาพดี แต่มันไม่ใช่วิธีการเดียวที่จะทำให้น้ำหนักลด หรือลดความอ้วน คุณเห็นวิธีการออกกำลังกายของผมมั้ยครับ วิ่ง เตะตะกร้อ วิดพื้น ชกลม 9 ยก หรือว่า ว่ายน้ำวันละ 1 กม. เป็นการออกกำลังกายที่หนักพอดูนะครับ ถ้าไม่เคยออกกำลังกายแบบนี้มาก่อน ช่วงแรกถึงกับเหนื่อยมากทีเดียว การออกกำลังกายขนาดนี้ ตามความคิดธรรมดา ๆ ยังไงก็ต้องคิดว่า น้ำหนักตัวมันต้องลดลงได้บ้างสิน่า ถูกมั้ยครับ แต่ความจริงเปล่าเลย มันไม่ได้ลดลงเลย ดังนั้น การลดความอ้วน หรือลดน้ำหนักก็ต้องมุ่งมาสู่เรื่องกินแล้วหละ ถ้าคุณกินเข้าไปตามปกติ แล้วคุณออกกำลังกาย แล้วมันไม่อ้วนขึ้น ไม่ผอมลง ก็แสดงว่า คุณกินเข้าไปกับคุณใช้ออกมาพอ ๆ กัน การจะทำให้น้ำหนักลดลง หรือลดความอ้วนได้ ต้องใช้หลักการ กินน้อยกว่าใช้เท่านั้น มันถึงจะทำให้น้ำหนักลด หรือลดความอ้วนได้ ก็ลองไปพิจารณาข้อมูลกันดูว่า สิ่งที่ผมพูดมาพอจะเชื่อถือได้บ้างมั้ย 

การออกกำลังกายนั้น ไม่มีกิจกรรมอะไรที่จะมาทดแทนได้ ใครก็ตามที่บอกกับคุณว่า เมื่อคุณซื้อผลิตภัณฑ์ยาเทวดา หรือยาผีบอก ยาวิเศษที่สามารถรักษาได้สารพัดโรคสารพัดอาการ บำรุงสุขภาพให้ดีแบบฝุด ๆ ลดน้ำหนักลดความอ้วน ไม่เกิดโยโย่เอฟเฟ็คโดยที่คุณไม่ต้องไปออกกำลังกายแม้แต่แอะเดียว หรือพูดง่าย ๆ ว่า ทดแทนการออกกำลังกาย ทำให้คุณไม่ต้องออกกำลังกายก็มีสุขภาพที่ดีได้ ขอให้คุณฟังหูไว้หูนะครับ อย่าเพิ่งไปเชื่อ ผมไม่คัดค้านหรือสนับสนุนอะไรหรอก แต่ก็ให้คุณดูข้อมูลต่าง ๆ ที่ผมให้ไป แล้วก็แนวโน้มของโลก ถ้าการออกกำลังกายมันไม่สำคัญจริง ๆ แล้ว ใครจะอยากมาเหนื่อยมาลำบากอยู่หละครับ ถ้าเราสามารถทำให้ร่างกายเรามีสุขภาพที่ดีได้สบาย ๆ อย่างนั้น

แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ก็เกิดข่าวสนับสนุนให้คนไม่อยากออกกำลังกายได้เกิดความกระดี๊กระด๊า เพราะว่า เกิดมีนักบริหารของเว็บชื่อดังระดับโลกเสียชีวิตจากการออกกำลังกาย มีคนดังระดับชั้นนำของเมืองไทย ผู้ประกาศข่าว หรือใครก็ตามที่เค้าออกกำลังกายแล้วบังเอิญเกิดตายขึ้นมา คนไม่นิยมการออกกำลังกายก็จะเอามาเม้าส์กันอย่างสนุกปากว่า เห็นมั้ย เห็นยัง นี่ไง ไหนบอกว่าออกกำลังกายดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ แล้วเป็นไง เห็นหรือยัง เห็นชัด ๆ เลยว่า คน ๆ เนี้ย เป็นคนออกกำลังกายสม่ำเสมอมาตลอด ทำไมถึงตายได้หละ อย่างงี้ไม่ออกกำลังกายไม่ดีกว่าหรือ ออกแล้วยังตาย คนไม่ชอบออกกำลังกายเริ่มรู้สึกมีเหตุผลสนับสนุนฝ่ายของตนแล้วว่า ตนมาได้ถูกทางแล้ว คุณว่า สิ่งที่คนเหล่านี้คิดมันสอดคล้องกับความจริงแล้วหรือยัง

การตายเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนที่แข็งแรง ๆ ไม่มีประวัติการเจ็บป่วย การรักษาตัว ก็ยังมีจังหวะทำงานมากไป เจออากาศร้อนไป เจออากาศหนาวไป ทำงานเหนื่อยไป จนช็อกหมดสติ หรือบางคนก็เลยไปเลย นี่ขนาดคนแข็งแรงไม่เป็นอะไรเลยนะ การที่คนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระบบอวัยวะต่าง ๆ หลายระบบ ทั้งระบบเลือด ระบบหายใจ ระบบประสาท ฯลฯ ช่วยกันทำงานเมื่อมันทำงานสอดคล้องกันก็ไม่มีปัญหา มันก็ทำให้เราคงมีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข หัวใจก็สูบฉีดเลือดของมันไป ระบบย่อยน้ำตาลก็ย่อยน้ำตาลไป ระบบหายใจก็ฟอกอากาศไป ร่างกายเราก็จะแข็งแรง สู้งานสู้การหนัก ๆ ได้สบาย แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งความซับซ้อนของระบบในร่างกายนี้เองก่อให้เกิดปัญหา อาจเนื่องจากเราใช้มันมานาน มันก็เหนื่อยก็ล้าก็ย่อมเป็นได้ ระบบต่าง ๆ ที่เคยดีก็อาจลดความสามารถลง ระบบที่ดีอยู่ มันก็ไม่รู้ว่าจะรักษาสภาพคงเดิมอยู่ได้นานไหม ระบบบางระบบที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอาการเตือนอะไร เมื่ออาการนั้นมาอยู่ในร่างกายของคน ๆ หนึ่ง ที่เคยแข็งแรง ไม่เคยเป็นไร จู่ ๆ ความบกพร่องก็เข้ามาสู่ร่างกายอย่างไม่ได้นัดหมาย เจ้าตัวไม่ได้ระแคะระคายเลย เมื่อคนเหล่านี้ไปออกกำลังกาย ไปทำกิจกรรมแบบที่เคย ๆ ทำมา มันก็จะมีโอกาสเกิดมีอาการหมดสติเฉียบพลัน หรือเสียชีวิตได้ ก็ด้วยโรคร้ายที่มันเข้ามาอยู่กับเราโดยที่เราไม่รู้ตัวนั่นเอง การที่เราจะรู้ว่า ร่างกายของเรามีปัญหาหรือไม่ เราอาจใช้การสังเกตได้บ้าง แต่ถ้ามันไม่มีอาการอะไรฟ้องเลย หรือไม่มีจุดสังเกต เราก็ต้องพึ่งบริการให้หมอตรวจอย่างที่เรามักทำกัน คือ ไปตรวจร่างกายประจำปีไง การตรวจของหมอเหล่านี้แหละ จะทำให้เรารู้ข้อบกพร่องของเราว่า เรามีความดันสูงแล้วนะ เรามีอาการหัวใจแล้วนะ เรามีเบาหวานแล้วนะ เมื่อเรารู้ เราจะได้ระวังออกกำลังกายก็ออกไปตามสภาพ ไม่หักโหมซะจนเกิดผลร้ายขึ้นมา ในบรรดาผู้ที่ตกเป็นข่าวว่า ออกกำลังกายบ่อย ๆ แล้วยังเสียชีวิต ก็ด้วยเหตุที่ผมกล่าวมานี่แหละ ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกแหวกแนวไปจากนี้หรอก บางท่านอาจมีปัญหาสุขภาพซ่อนอยู่ มันไม่เคยมีอาการเตือนใด ๆ คน ๆ นั้น ก็ย่อมไม่รู้ว่า ศัตรูเงียบมันรอเล่นเราอยู่ และก็ยังมีบางคนที่รู้ทั้งรู้แต่ก็ฝืน ไม่เชื่อว่าอาการที่ตัวเป็น มันจะก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ฝืนออกกำลังกายหนัก ๆ ไปแล้วก็พบจุดจบอย่างอนาถ (อย่างเช่นเพื่อนพ่อผมที่ฝืนออกกำลังกายหนัก ๆ แล้วเสียชีวิตที่กล่าวอยู่ในบทความตอนนี้ช่วงท้าย ๆ) ซึ่งเราก็ต้องดูปัจจัยสภาพของคนที่เกิดเหตุเป็นแต่ละเรื่องแต่ละเรื่องไป คนที่เกิดปัญหาโรคภัยไข้เจ็บเฉียบพลันส่วนใหญ่มักเกิดจากปัญหาสุขภาพทั้งแบบรู้ตัวว่าเป็นและแบบไม่รู้ตัวว่าเป็น (นี่แหละตัวอันตรายเลย) เราอย่าเหมาเอาเรื่องนั้นมาโยงเรื่องนี้ แล้วก็เข้าใจกันเอาเองไปมั่ว ๆ เราต้องมาดูว่า การตายเหล่านั้น จริง ๆ แล้วมันน่าจะมีสาเหตุจากอะไร เราอย่าไปเหมารวมว่า คนเหล่านั้นเค้าตายเพราะการออกกำลังกาย ผมจะบอกเลยว่า พูดผิดพูดใหม่ 

ข้อดีการออกกำลังกายที่หลายท่านอาจยังไม่เคยรู้ ความรู้ตรงนี้ก็เกิดจากการค้นพบโดยบังเอิญของผม คือ เมื่อก่อนตอนผมไปทำงานที่พัทยา ตอนเช้ามีจังหวะออกไปจ๊อกกิ้งก็มีรุ่นน้องถามผมว่า "พี่ว่า ความดันก่อนพี่ออกไปวิ่งกับหลังวิ่งอะไรจะสูงกว่ากัน" ผมก็บอกว่า "หลังวิ่งก็ต้องสูงกว่าสิ ไปออกกำลังไง ๆ ก็ต้องสูง" ปรากฏว่า จริง ๆ แล้ว หลังจากออกกำลังกาย ความดันจะลดลงกว่าตอนออกไปวิ่ง มันเป็นสิ่งที่สวนทางกับความคิดความรู้สึกเลย แปลกมั้ยหละ แล้วอีกอย่าง ผมเนี่ยเวลานั่งพิมพ์งานนาน ๆ ขามันจะบวม เวลาใส่รองเท้าจะออกไปวิ่งนะ รองเท้าคับปึ๋งเลย แต่พอวิ่งไปซักพัก รองเท้าที่คับปึ๋งหนะ ก็จะค่อย ๆ ไม่คับแล้วก็จะค่อย ๆ หลวมตามสภาพเดิม ทั้งเรื่องความดันที่ลดลง แล้วก็ขาที่บวมลดลง ผมขอบอกเลยว่า การออกกำลังกายทำให้เลือดลมไหลเวียน ซึ่งการไหลเวียนของเลือดลมนี้ เป็นสิ่งที่การแพทย์แผนไทย แผนจีน แผนฝรั่ง ต้องการให้คนไข้เลือดลมไหลเวียนดีทั้งสิ้น เพราะการที่เลือดลมไหลเวียนดี นั่นก็คือ ร่างกายโดยรวมจะมีความแข็งแรง แต่ถ้าเลือดลมไม่ไหลเวียนโดยสะดวก คน ๆ นั้นต้องไม่สบายไม่เป็นอะไรก็อะไรซักอย่าง การออกกำลังกายยังทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผลิตและสูบฉีดทำให้หลังการออกกำลังกายจะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว เวลาไปนอนก็จะนอนหลับง่าย แล้วอีกอย่างที่ท่านชายค่อนข้างจะชอบก็คือ สมรรถภาพของคุณน้องชายของคุณจะดี จะสามารถโรมรันพันตูกับข้าศึกได้อย่างไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ อีกด้วย

มีแนวคิดที่คิดว่า การออกกำลังกายคือวิธีการที่ทำให้น้ำหนักลดลง หุ่นดี ร่างกายผอมลง ความคิดแบบนี้ ถ้าคุณคือนักออกกำลังกายตัวยง คุณจะไม่สรุปไปอย่างนั้น เพราะมันไม่เป็นความจริงทั้งหมด การออกกำลังกายไม่ใช่เครื่องมือในการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนเพียงอย่างเดียว สิ่งที่จะทำให้คุณลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้ดี และถูกต้องตรงกับสาเหตุแห่งความอ้วนที่สุดก็คือการกิน คุณต้องรู้ว่า การกิน คือการนำเอาความอ้วนเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เราเอาความอ้วนเข้ามาก เราก็จะอ้วนมาก เอาเข้าน้อย เราก็อ้วนน้อย หลักการที่ถูกต้องที่สุดคือ คุณต้องกินเข้าไปให้น้อย แล้วใช้ออกมาให้มากกว่าที่กินเข้าไป คุณทราบมั้ยครับว่า การกินอาหารเพียงนิดหน่อย พลังงานมันจะเพิ่มให้กับร่างกายอย่างมหาศาล ให้คุณออกกำลังกายหนักหน่วงยาวนานขนาดไหน คุณก็เผาผลาญพลังงานได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าคุณกินเข้าไปเยอะ ร่างกายก็จะไม่สามารถที่จะเผาผลาญพลังงานได้หมด สิ่งที่เหลือมันก็จะสะสมเป็นความอ้วนที่เราไม่ต้องการนั่นเอง  

การออกกำลังกายที่ดี คือการที่เราออกกำลังกายได้อย่างสบาย ออกได้ทุก ๆ วัน และไม่มีปัญหาในระยะยาว การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมระยะยาวที่จะต้องคู่ไปกับชีวิตเรา ไม่สามารถหยุดได้ การหยุดเพียงช่วงใดช่วงหนึ่งอาจพอได้ แต่ถ้าหยุดยาว ๆ ย่อมทำให้สุขภาพร่างกายย่ำแย่ลงอย่างแน่นอน เดิมผมออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน ร่างกายก็แข็งแรงดี เคยตรวจร่างกายก็จะพบว่า ผมมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง มาบางช่วง พอหยุดออกกำลังกายเป็นเวลานาน นานขนาดเป็นปี ๆ เลยนะ แล้วคนเรานี่มันก็แปลก พอไม่ได้ออกกำลังกายนาน ๆ เข้า มันเบื่อไปเอง ทั้ง ๆ ที่ตอนที่ยังออกกำลังอยู่ก็ออกได้ออกดีทุกวัน ออกอย่างค่อนข้างหนัก แล้วก็ไม่มีวี่แววว่าจะเบื่อหน่าย แต่ขอโทษทีเถอะ ถ้าคุณจากเคยออกกำลังมาสม่ำเสมอแล้วดันมีเหตุให้ต้องหยุดออกกำลังดูพักนึง ระหว่างที่หยุดไปเรื่อย ๆ นั้น จะเกิดความเบื่อมาก แล้วก็ไม่อยากจะไปทำท่าทำทางอย่างที่เคยทำอีกเลย กว่าจะตั้งท่าตั้งทางหาอะไรมากระตุ้นให้อยากออกกำลังอีกครั้งก็ยากมาก ไม่เป็นสิ่งกระตุ้นเตือนแรง ๆ จะไม่เกิดความอยากทำ บังเอิญผมมาเจอสิ่งกระตุ้นอย่างแรง ขอบอกว่าแรงจริงไรจริง ก็ตอนตรวจร่างกายแล้วเจอความดันสูงไง หมอตรวจความดันตัวบน 180 ตัวล่าง 110 เราก็คิดว่า รอพักหายเหนื่อยก็คงจะลดต่ำลงมาเอง ก็รอดู ปรากฏว่า พักเป็น 10 นาที หายเหนื่อยแน่นอนแล้วลองไปวัดดูใหม่ เอาละสิงานเข้าแล้ว เมื่อก่อนตอนตรวจทีแรกสูงนะ พอนั่งซักพักไปวัดทีที่สองก็จะลดลงไปทุกครั้ง ต่างจากครั้งนี้ นี่ผมนั่งพักตั้งนานเกิน 15 นาทีอีก ไปตรวจอีกทีก็ยังไม่ยอมลง ยุ่งหละสิ แบบนี้มันก็คือ มีไม้มาแหย่ตูดให้ต้องไปออกวิ่งกันอีกแล้ว ดูสิ ขนาดว่าเราก็กลัวมันมาตลอดนะ ออกกำลังมายาวนาน เผลอหน่อยเดียวเรียบร้อย มันมาเป็นเพื่อนสนิทของเราอย่างแนบแน่นแล้ว พยายามฝืนสู้กับมันตั้งนาน ใครต่อใครบอกสมุนไพรอะไรก็ลองมันดะไป ไม่เจอว่า มันจะช่วยความดันผมให้ลดลงอย่างที่บอก ๆ กันซักคน สุดท้าย พึ่งหมอดีกว่า กินยาแล้วความดันลดลงแน่นอน ทุกวันนี้ผมต้องกินยาควบคุมความดันโลหิตตลอด จะอาศัยการออกกำลังกายมาลดความดันมันก็ได้ผลไม่เต็มที่ พอไม่กินมันก็สูงอยู่ดี ในที่สุดผมก็ต้องกินยาไปเรื่อย ๆ เพื่อรักษาโรคที่พยายามมาทั้งชีวิตไม่อยากให้เป็น ในที่สุดก็ต้องยอมรับมัน

การออกกำลังกายต้องมีความพอเหมาะพอดี ต้องรู้ว่า เรามีความเหมาะสมกับการออกกำลังกายแบบไหน ปริมาณเท่าไหร่ อีกอย่างที่สำคัญคือความชอบด้วย ถ้าไม่ชอบออกกำลังกายแบบไหน ขอแนะนำว่า อย่าฝืน ทำในสิ่งที่ตนชอบจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เลือกอะไรให้เหมาะกับเรา แล้วปรับปรุงพัฒนาการออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ เราก็จะพบหนทางที่เหมาะสมกับเรา อย่าไปตามคนอื่นแล้วฝืนทำ การฝืนทำอะไรที่เราไม่ชอบ ผมว่ามันน่าจะไม่ใช่วิธีการที่ดีหรอกนะ การออกกำลังกายให้เหมาะกับสภาพของตนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนของพ่อผมคนนึง เป็นคนที่กลัวโรคความดันสูงมาก พยายามรักษาร่างกายมาโดยตลอด มาวันนึง ไปหาหมอ หมอตรวจพบว่า เป็นโรคความดันโลหิตสูง เท่านั้นแหละ รู้สึกรับไม่ได้ อะไร พยายามรักษาร่างกายมายาวนาน มาเป็นความดันโลหิตสูงได้ยังไง พ่อผมไปเจอแกพอดีตอนที่แกออกกำลังกายกลับมาบ้านแล้ว แกภูมิอกภูมิใจมากกับการที่แกไปออกกำลังกายโดยการวิ่งเป็นระยะทางเป็นกิโลกิโลโดยไม่เป็นไร แกบอกเลยว่า แกค้นพบแล้วว่า แกสามารถที่จะหายจากการเป็นโรคความดันสูงได้อย่างสบาย คุณเชื่อมั้ย ไม่กี่วันหลังจากพ่อผมไปพบกับแก พ่อผมได้ข่าวว่า เพื่อนแกคนนั้นเส้นโลหิตในสมองแตกซะแล้ว นอนเป็นอัมพาตอยู่โรงพยาบาล ไม่กี่วันก็เสียชีวิต นี่แหละครับ การออกกำลังกายโปรดอย่าหักโหม ต้องเลือกสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วเหมาะสมกับเรา ก็จะไม่เกิดความสูญเสียแบบนี้ น่าสงสารสำหรับผู้ที่คิดและเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายใช่มั้ยครับ

ใครที่ต้องการสุขภาพแข็งแรง คงอยู่ไปได้นาน ๆ อย่างมีความปกติสุข ก็จำเป็นจะต้องออกกำลังกายนะครับ การออกกำลังกายมีข้อดีหลายอย่างหลายประการอย่างที่กล่าวมาแล้ว แต่ก็อย่างที่บอก การทำอะไรก็ต้องทำแต่พอดี ไม่ใช่พอให้ออกกำลังกายก็เอามันซะหนัก กะจะออกวันเดียวให้โรคภัยไข้เจ็บมันหายขาดไปเลยหรือไง