การแปรงฟันอย่างถูกวิธี จะมีผลทำให้ ซอกฟัน เหงือก สิ่งสกปรกในช่องปาก สะอาด สดชื่น หากเสริมด้วย การแปรงฟัน ด้วย ยาสีฟันผสมเห็ดหลินจือ ย่อมเป็นอะไรที่ สุดยอดจริง ๆ ครับท่าน
เรื่อง แปรงฟัน ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ ทำมาแต่เล็กแต่น้อยแล้ว แค่เอา ยาสีฟัน ป้ายลงไปบนแปรง แล้วก็แปรงแปรงแปรงเข้าไป แปรงให้ทั่วเท่านั้นก็ใช้ได้ จบ...
ใช่ครับ ผมก็ว่างั้นแหละ ผมว่าเรื่องแปรงฟัน มันก็น่าจะแค่นั้นเองจริง ๆ แต่ปรากฏว่า มันมีเรื่องซ่อนอยู่เบื้องหลัง การแปรงฟัน เยอะเลย หลังจากที่ ผมต้องไปหาหมอฟันเพื่อ บำรุงรักษาฟัน 3 หรือ 4 เดือนต่อครั้ง ผมเริ่มเห็นแล้วว่า การแปรงฟัน มันไม่ใช่เรื่องแค่นั้นซะแล้ว
การแปรงฟัน ให้ทั่วปากมันก็เป็นเรื่องนึง แต่การแปรงฟัน นั้น เป็นวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ ทำให้เกิดปัญหาอื่น ตามมาบ้างหรือไม่ แปรงแล้วสะอาดหรือไม่ มันเป็น คนละเรื่องกันเลยหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า แปรงฟันทั่วแล้ว เป็นอันเสร็จพิธี แปรงวันละหลาย ๆ ครั้ง เช้า เย็น หลังอาหาร ไง ๆ ก็สะอาด ใช่ครับ ผมก็ว่าน่าจะสะอาด แต่คุณรู้มั้ยครับว่า เวลาคุณคิดว่า แปรงฟันดีแล้ว ถูกต้องแล้ว แต่ทำไมเวลาคุณไปหาหมอฟัน หมออาจบอกคุณว่า คุณยังแปรงฟันไม่สะอาด โอ้โน่ มันเป็นไปได้อย่างไร
จริง ๆ ครับ ผมไปหาหมอฟันมายาวนาน หมอคนนึงบอกแบบนึง หมออีกคนบอกอีกแบบนึง บางทีเค้าเรียนมาเหมือนกัน ตำราคล้ายกัน เวลามาบอกเรา ยังไม่เหมือนกันเลย แล้วเราควรจะเอาแบบไหนดี
ผมมาสรุปเอา จากประสบการณ์ที่ไปหา หมอฟัน บ่อย ๆ เองได้ว่า การแปรงฟัน แบบที่น่าจะถูกต้อง ทำให้ปากและฟันสะอาด ฟันอยู่คงทนคู่กับเราไปนานที่สุด เท่าที่จะนานได้ ต้องประกอบไปด้วยปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
1. วิธีการแปรงฟัน ต้องแปรงฟันอย่างถูกวิธี ถ้า แปรงฟันไม่ถูกวิธี นอกจากจะทำให้ผลลัพธ์ของการแปรงฟัน ได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจแล้ว ปากและฟันคุณยังไม่สะอาด และ อาจก่อผลกระทบ กับอวัยวะต่าง ๆ ในช่องปาก เช่น เยื่อบุปาก กระพุ้งแก้ม เกิดเป็นแผล เหงือกร่น ฯลฯ ได้อีกด้วย ดังนั้น คุณเริ่มเห็นด้วยนิด ๆ หรือยังว่า เราควรให้ความสนใจ กับ วิธีการแปรงฟัน ขึ้นมามั่งแล้ว เมื่อแปรงฟันกันอย่างถูกวิธีแล้ว ปากและฟันก็จะสะอาด ไม่เกิดผลกระทบกับอวัยวะต่าง ๆ ในช่องปาก ย่อมจะดีกว่า การแปรงฟัน ที่ไม่ถูกต้องใช่มั้ยครับ
วิธีการแปรงฟัน ที่เราคุ้นเคยแต่เดิม คือ ใส่ยาสีฟันที่แปรง แล้วก็เริ่มแปรง แบบถูไปที่ฟันบนฟันล่างอย่างรวดเร็ว มีทั้งถูแบบทิ่มแทงเข้าด้านลึก บางทีก็ทิ่มแทงไปทางขวาง แล้วก็แปรงไปอย่างค่อนข้างรวดเร็ว และ อาจถึงรุนแรง รีบ ๆ แปรงให้ทั่ว พอรู้สึกว่าทั่วแล้ว ก็บ้วนปากทิ้งทันที เป็นอันเสร็จพิธี วิธีการแบบนี้ มีคนใช้กันเป็นจำนวนมาก ผมแต่เดิม ก็ใช้วิธีที่บอกนั้นด้วย แต่หลังจากไปหาหมอฟันมา หมอเค้าเลยให้คำแนะนำกับเรา เราถึงรู้ว่า วิธีการที่เราแปรงฟัน มาตั้งแต่เป็นเด็กเนี่ย เราแปรงไม่ได้ถูกวิธีเลย และ เมื่อดูผลลัพธ์ จากการแปรงฟันของผม ทำให้รู้ว่า มันทำให้เหงือกร่นด้วย คุณหมอเลยแนะนำ วิธีการแปรงฟันที่ถูกวิธีให้กับผม เป็นวิธีที่เราท่านไม่ค่อยคุ้นเคยกัน แต่หากทำได้ จะทำให้การแปรงฟันทำได้สะอาดขึ้น ไม่กระทบกับอวัยวะอื่น ในช่องปาก วิธีการนั้น คือ การแปรงฟัน แบบถือด้ามแปรงไว้ในมือที่ถนัด แล้วนำบริเวณขนแปรงปัดขึ้นลงตามแนวยาวของฟัน โดยเวลาจะแปรงลง ก็เอียงขนแปรง 45 องศา แล้วลากปัดลงมา ถ้าจะแปรงฟันขึ้นด้านบน ก็เอียงขนแปรง 45 องศา แล้วลากปัดขึ้นด้านบน เป็นการลากปัดไปตรง ๆ การแปรงฟัน ไม่จำเป็นต้องแปรงอย่างรุนแรง แปรงไม่ต้องแรงมาก แต่อาจปัดหลายครั้งหน่อย เมื่อแปรงขึ้นลง ตามแนวยาวของฟันทั่วแล้ว ยังมีส่วนที่ยังมีคราบอาหาร ชา กาแฟ หรือ ของที่เรากินเข้าไป ยังคงติดหรือเคลือบอยู่ที่บริเวณซอกที่โคนฟันติดกับเหงือก (ไม่ใช่ซอกฟันนะครับ ซอกฟันเรามีวิธีการทำความสะอาดต่างหาก) พวกคราบเหล่านี้แหละ ถ้าเราไม่ทำความสะอาดให้ดี ก็จะทำให้เป็น บ่อเกิดของหินปูน เกิดปัญหา เกี่ยวกับปากและฟันขึ้นมาอย่างมากมาย เราสามารถทำให้บริเวณโคนซอกฟัน ที่ติดกับเหงือกสะอาดด้วยวิธีง่าย ๆ ก็คือ การใช้แปรงสีฟันถูลงไป บริเวณซอกโคนฟันดังกล่าวแบบถี่ ๆ เป็นการถูตามขวางกับแนวฟันแบบสั้น ๆ จุดนึงซัก 4 - 5 ครั้งไปกลับ พอถูแบบถี่ ๆ เสร็จให้เรา ปัดขนแปรงลงหรือขึ้น เวลาแปรงฟันบน พอเราแปรงถี่ ๆ เสร็จ ก็ให้ลากปัดแปรงลง ถ้าแปรงฟันล่าง พอแปรงถี่ ๆ เสร็จ ก็ให้ลากปัดแปรงขึ้น พอเสร็จจุดนึง ก็แปรงต่อไปยังจุดที่ยังไม่แปรง แล้วก็แปรงฟันให้ทั่วทั้งปาก แค่นี้ บริเวณซอกฟันบริเวณติดกับเหงือกก็จะสะอาด แต่เตือนไว้อย่าง คือ การแปรงฟัน ไม่ต้องแรง การแปรงรุนแรง จะเกิดผลร้ายมากกว่าดี อย่างแน่นอน
2. ยาสีฟัน ต้องเป็นยาสีฟันที่มีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ อยู่ด้วย ฟลูออไรด์ เป็นสารที่เมื่อเคลือบอยู่ที่บริเวณฟันแล้ว จะช่วยป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี หากเราดูส่วนผสมแล้ว รู้ว่า ยาสีฟัน ที่เราใช้อยู่ไม่มี ฟลูออไรด์ เราก็สามารถแก้สถานการณ์ได้ ด้วยการเลือกซื้อยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ ผสมอยู่ มาใช้ร่วมกันก็ได้
ปริมาณยาสีฟันที่ใช้ ก็ควรให้พอเหมาะ ให้มีฟองกระจายให้ทั่วปาก เพราะฟองของยาสีฟัน ก็เป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดปากและฟัน และยังมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ที่ช่วยป้องกันฟันผุได้ด้วย อย่าประหยัด มากถึงขนาดใช้เพียงนิดเดียว ประโยชน์ของยาสีฟัน ก็จะไม่ได้มากนัก แล้วเมื่อแปรงฟันเสร็จ หากมีเวลาไม่รีบนัก ก็อมยาสีฟันเอาไว้สักครู่หนึ่งก็จะดี ให้ยาสีฟันมีเวลาแทรกซึมช่วยป้องกันฟันผุ
3. ความถี่ของ การแปรงฟัน เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ถ้าแปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร หลังรับประทานอะไรก็ตาม ก็จะดีมาก เพียงแต่ว่า คุณอย่าลืมว่า วัน ๆ หนึ่ง เรามีภารกิจต้องทำอยู่หลายอย่าง หากวัน ๆ เอาแต่แปรงฟัน อย่าลืมว่า จะไม่ได้ทำงานอย่างอื่นเสียฉิบ
4. การใช้เครื่องมือช่วย เช่น ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน เป็นสิ่งจำเป็น เพราะซอกฟัน (ช่องระหว่างฟันซี่หนึ่ง กับอีกซี่หนึ่ง) ไม่มีแปรงสีฟันแบบปกติแบบใด ที่จะใช้แปรงซอกซอนเข้าไปในซอกฟันแบบนี้ได้ การทำความสะอาดก็ต้องใช้วิธีการต่างหาก คือ ต้องใช้ไหมขัดฟัน หรือ แปรงซอกฟัน ในการขัดถู หรือแปรงเท่านั้น ที่จะสามารถ แปรงเข้าทำความสะอาดในซอกฟันเล็ก ๆ อย่างนั้นได้ ในส่วนของเครื่องมือช่วยเหล่านี้ โปรดอย่าคิดว่า มันเป็นภาระความยุ่งยากนะครับ คุณลองคิดดูสิ ขนาดบริเวณฟันด้านหน้ากับด้านหลัง เราสามารถใช้แปรงสีฟันปกติ แปรงได้อย่างทั่วถึง เวลาไปให้หมอขูดหินปูนที หมอก็ยังต้องเสียเวลาขูดหินปูนเป็นเวลานาน แล้วในซอกฟันเนี่ย ถ้าเราไม่เคยใช้ไหมขัดฟัน หรือ แปรงซอกฟัน เข้าไปทำความสะอาดมันเลย ลองคิดดูว่า บริเวณที่ไม่เคยถูกทำความสะอาดเลย จะมีคราบสกปรก เกาะติดได้มากขนาดไหน ก็คงจะจินตนาการกันออกนะครับ
ก็ครบถ้วนกระบวนความ กับ การแปรงฟัน ให้ถูกวิธี ใช้เครื่องมือช่วยเหลือให้ครบถ้วน ใช้ยาสีฟันให้ได้ทั้งคุณภาพ และ ปริมาณ แปรงหลังอาหาร หากทำได้ครบถ้วนแล้ว โอกาสที่ฟันจะอยู่กับเรานาน ๆ ไปยันเฒ่าชแรแก่ชราก็มีสูง อย่าให้ใครมาล้อได้ว่า "เหงือกจ๋า ฟันลาก่อน" ตั้งแต่ยังเด็กก็แล้วกัน ขอบอก